SSP หักปากกาเซียน กำไรไตรมาส 2/61 โตพุ่งทะลัก 43% QoQ 38% YoY หลังโรงไฟฟ้าญี่ปุ่นทำผลงานดีเกินคาด/ขายไฟเต็มๆ 74.4 MW คาดครึ่งปีหลังโรงไฟฟ้าเสร็จทั้งก่อนและตามกำหนดหลายโรง ดันผลงานทะลุเป้าอีก

SSP โชว์กำไรไตรมาส 2/61 โตแรง 43% QoQ และ 38% YoY เนื่องจากรับรู้รายได้ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เต็ม 74.4 เมกะวัตต์ มั่นใจครึ่งปีหลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากโรงไฟฟ้าโซลาร์ต่างประเทศสร้างเสร็จเร็วกว่ากำหนด ดันกำลังการผลิตทะลุเป้าปีนี้ 90 เมกะวัตต์ เล็งปิดบุ๊คควานหาไอ้โม่งแสบทุบเก็บหุ้น

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/61 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 152 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% เทียบกับงวดไตรมาสแรกของปีนี้ และ 38% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้อยู่ที่ 301.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.5% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่งวดครึ่งปีแรก มีกำไรสุทธิ 259.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.8% จากงวดเดียวกันปีก่อน และมีรายได้ 523.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.5%

สาเหตุผลการดำเนินงานเติบโตมากขึ้น เนื่องจากโซลาร์ฟาร์ม Hidaka ในญี่ปุ่นกำลังการผลิต 21.4 เมกะวัตต์ ที่ COD เมื่อ 1 มีนาคม 2561 ที่มีผลงานดีมาก รับรู้เต็มไตรมาส จากผลงานสองไตรมาสคาดรายได้จะมีการเติบโตเกินเป้า


“งวดไตรมาส2/61 ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่มีนัยสำคัญเพราะบริษัทจะมีรายได้จากโรงไฟฟ้าญี่ปุ่น ที่ช่วยพิสูจน์ชัดว่าเราทำได้จริง และทำได้ดี โดยเป็นฐานรายได้ที่สำคัญที่จะผลักดันให้บริษัทเติบโตต่อเนื่อง ในช่วง 2-3 ปีนี้”


สำหรับการดำเนินธุรกิจช่วงครึ่งปีหลังคาดจะมีการ COD โครงการโซลาร์ฟาร์ม และโซลาร์รูฟท็อปรวมกันเพิ่มมาอีก 4 โครงการ โดยบางโครงการได้ COD ไปแล้ว

ขณะที่บริษัทฯได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ โครงการ ‘โซเอ็น’ โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กำลังผลิต 8 เมกะวัตต์ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม (เร็วกว่ากำหนดเดิมที่คาด COD ในไตรมาส 4/2561) โดยเมื่อนับรวมกำลังการผลิต 3 เมกะวัตต์ของโครงการ Do Home ที่เริ่ม COD ไปเมื่อต้น ก.ค ทำให้ปัจจุบันมีกำลังผลิตติดตั้งรวมอยู่ที่ 85 MW ส่วนอีกสองโครงการคือ SNNP3 และ SNNP4 (โซล่ารูฟท็อป กำลังการผลิตรวม 691 กิโลวัตต์) คาดว่ารับรู้รายได้ในตั้งไตรมาส3/61 เราจึงหวังเห็นรายได้เติบโตต่อเนื่องทุกไตรมาส

ปัจจุบันบริษัทฯมีใบอนุญาตขายไฟฟ้ารวมทั้งหมด 190 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าอีก 100 กว่าเมกะวัตต์ที่ยังไม่ COD จะทยอย COD ได้ครบ ภายในปี 63 รวมทั้งบริษัทยังหาโครงการใหม่ๆที่มีศักยภาพเพิ่มเติม ดังเช่นหลายๆโครงการที่เราหาได้เพิ่มในปีนี้

นายวรุตม์ กล่าวว่า การที่ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงนั้น ยังไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่งบการเงินไตรมาสสองมีกำไรสุทธิเติบโตมาก เมื่อสอบถามผู้ถือหุ้นใหญ่แล้วสัดส่วนการถือครองหุ้นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง บริษัทเองก็มองว่าเป็นการขายหุ้นและซื้อกลับที่มีลักษณะค่อนข้างไม่เป็นธรรมชาติ จึงได้ยื่นขอปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้น เพื่อจะได้ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ถือหุ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถทราบรายชื่อได้ภายในสัปดาห์หน้า


ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

คุณบัณฑิต ประทุมตะ (กอล์ฟ) Mobile 084-0852664 email : [email protected]

คุณนงนภัส ปิฏฐปาตี (โอ๋) Mobile 081-4845858 email : [email protected]